คนนี้ใช่เลย ! อดีตหอกแมนยู เชื่อ รอย คีน คนที่ใช่นำทีมสู่ยุครุ่งเรือง -

จูเซ็ปเป้ รอสซี่ อดีตดาวยิงแมนยู แนะสโมสรควรชายตามอง รอย คีน หากพวกเขาคิดจะปลด เอริค เทน ฮาก ออกจากตำแหน่ง เชื่อด้วยประสบการณ์และความเป็นตำนานจะสามารถทำ “ปีศาจแดง” คืนสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้ง

จูเซ็ปเป้ รอสซี่ อดีตกองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อ รอย คีน ตำนานกองกลางกัปตันทีม “ผีแดง” เป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะนำสโมสรกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

แมนยู ภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซือเอริค เทน ฮาก สร้างความหวังให้กับสาวก “เร้ดส์ อาร์มี่” ทั่วโลกเมื่อนำทีมคว้าแชมป์คาราบาว คัพ และจบอันดับ 3 ในลีกจากการกุมบังเหียนซีซั่นแรก

อย่างไรก็ตามในฤดูกาล 2023/2024 ทุกอย่างกลับตาลปัตรโดยโอกาสติดท็อปโฟร์ในพรีเมียร์ลีกแทบริบหรี่ ขณะที่แมตช์ล่าสุด พวกเขาต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนกว่าจะปราบ โคเวนทรี ทีมระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยการดวลจุดโทษ ในรอบรองชนะเลิศ ศึกเอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

จากสถานการณ์ในเวลานี้ทำให้อนาคตของ เทน ฮาก กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย โดยหากมีการปลดกุนซือชาวดัตช์จริงๆ งานนี้ รอสซี่ แนะนำต้นสังกัดเก่าควรดึง “คีโน่” ซึ่งปัจุบันทำงานเป็นนักวิเคราะห์เกม เข้ามากุมบังเหียน เพราะตำนานแข้งไอริชเป็นบุคคลในอุดมคติที่มีทุกอย่างในการนำวันคืนที่ยิ่งใหญ่ของ แมนยู กลับมาอีกครั้ง

รอสซี่ ซึ่งใช้เวลา 3 ปีในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยุคเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่าวว่า “เมื่อผมคิดถึงความเป็นไปได้ที่ รอย คีน จะเป็นผู้จัดการทีมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มันฟังดูเหมือนเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมจริงๆ นี่เป็นสิ่งที่เจ๋งมากๆ”

“แน่นอนว่าสโมสรควรจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าพวกเขามีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม บุรุษซึ่งเป็นตำนานของสโมสร และช่วยสร้างวัฒนธรรมของพวกเขา นั่นคือสิ่งที่จำเป็นจริงๆ บางทีนักเตะบางคนที่ไม่เคยเล่นภายใต้เสื้อสโมสรแห่งนี้จะเข้าใจได้”

“บางทีคุณจำเป็นต้องการใครซักคนที่จะเข้ามาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และปัดกวาดทุกอย่างให้สะอาด พร้อมกับพูดกระตุ้นและสร้างทุกอย่างขึ้นใหม่ มันอาจเป็นสถานการณ์ที่ยอดเยี่ยมก็ได้” รอสซี่ ระบุ

ทั้งนี้ คีน ประสบกความสำเร็จในฐานะผู้จัดการทีมตอนที่คุมซันเดอร์แลนด์ พร้อมกับนำ “แมวดำ” ขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งนั่นคืองานแรกของเขาในฐานะกุนซือ แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ล้มเหลวไม่เป็นท่ากับ อิปสวิช, แอสตัน วิลล่า, ทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ และ น็องติงแฮม ฟอเรสต์

Sportnews